บ้านหลังคาเขียว
“หลังคาเขียว” (Green roof) คือหลังคาของอาคารที่ปิดทับบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยพืชพรรณและดิน หรือเครื่องปลูกอย่างอื่นบนชั้นแผ่นกันน้ำ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหลังคาที่ทาด้วยสีเขียว หรือวัสดุมุงสีเขียวใดๆ หลังคาเขียวอาจรวมส่วนประกอบอื่น เช่นแผ่นชั้นกันราก ระบบระบายน้ำและระบบรดน้ำต้นไม้
สวนกระถางที่จัดบนหลังคาซึ่งต้นไม้ปลูกในกระถางอิสระไม่นับเป็น “หลังคาเขียว” ที่แท้จริงในความหมายนี้ แม้จะยังเป็นที่ถกเถียงกันได้อยู่
คำว่า “หลังคาเขียว” อาจใช้กับหลังคาที่ใช้เทคโลโลยี “เขียว” บางรูปแบบ เช่นแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังสุริยะด้วยก็ได้ หลังคาเขียวอาจหมายถึงหลังคาแบบอื่น เช่น หลังคานิเวศ (eco-roofs) หลังคามีชีวิต (living roofs) ที่มีเป้าหมายของแนวคิดเดียวกัน
ปัจจุบัน ประโยชน์ของหลังคาเขียวได้ถูกนำมาใช้เป็นมาตรการหนึ่งทางสถาปัตยกรรมและการผังเมืองเพื่อช่วยบรรเทาปรากฏการณ์โลกร้อน
คุณประโยชน์ของหลังคาเขียว
หลังคาเขียวมีประโยชน์ดังนี้
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังคาเขียวนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของ “อาคารอิสระ” (อาคารที่เป็นเอกเทศจากโครงสร้างพื้นฐานของเมืองหรือท้องถิ่น -(autonomous building)
จากข้อมูลการรณรงค์การใช้หลังคาเขียวเพื่อบรรเทาปัญหาโลกร้อนขององ์กรเอกชนแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ใช้ชื่อ “หลังคาเขียวเพื่อเมืองสุขภาพดี” (Green Roofs for Healthy Cities) มีกล่าวไว้ดังนี้
- "ในอเมริกาเหนือ คุณประโยชน์ของเทคโนโลยีหลังคาเขียวยังไม่เป็นเข้าใจกันอยู่มาก และตลาดด้านนี้ยังมีขนาดเล็ก ทั้งๆ ที่ผู้นำอุตสาหกรรมด้านนี้ได้พยายามรณรงค์ทำความเข้าได้มากพอควรแล้ว ต่างกับยุโรปที่เทคโนโลยีทางด้านนี้ได้วางรากฐานมั่นคงและไปไกลมากแล้ว "
เมื่อ พ.ศ. 2548 ผลการศึกษาของแบรด บาสส์ (Brad Bass) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งโทรอนโทได้แสดงให้เห็นว่าหลังคาเขียวสามารถลดการสูญเสียความร้อนและการสิ้นเปลืองพลังงานได้มาก
ความเป็นมาและการใช้ประโยชน์ของหลังคาเขียว
หลังคาเขียวสมัยใหม่สร้างขึ้นตามระบบแผ่นชั้นที่ทำขึ้นจำหน่ายโดยบริษัทผู้ผลิตที่จงใจทำขึ้นเฉพาะเพื่อใช้วางบนหลังคาสำหรับรองรับวัสดุปลูกพืชและตัวพืชที่จะปลูก นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้นในประเทศเยอรมันเมื่อประมาณ พ.ศ. 2508 และได้แพร่หลายไปทั่วประเทศนับแต่นั้นมา ปัจจุบัน ประมาณว่าร้อยละ 10 ของหลังคาอาคารในประเทศเยอรมันเป็น “หลังคาเขียว” หลังคาเขียวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ แม้จะยังไม่มากและเป็นธรรมดาอย่างในยุโรป
หลังคาเขียวส่วนใหญ่สร้างให้เป็นไปตามข้อบัญญัติท้องถิ่นซึ่งให้ความสำคัญแก่การจัดการการระบายน้ำฝน ในพื้นที่ที่ใช้ระบบระบายน้ำรวม (รวมน้ำโสโครกและน้ำฝนไว้ในท่อเดียวกัน - combined sewer-stormwater systems) ซึ่งน้ำฝนที่มากผิดปกติจะทำให้เกิดน้ำล้นท่อพาของเสียไหลท่วมพื้นที่แล้วไหลลงสู่ทางน้ำสาธารณะได้ หลังคาเขียวจะช่วยลดปริมาณน้ำฝนที่ไหลตามผิวโดยรวม ทำให้อัตราการไหลจากหลังคาช้าลง ซึ่งพบว่าหลังคาเขียวช่วยรับและหน่วงน้ำได้มากถึง 75% ของปริมาณน้ำฝนปกติที่ตกลงบนหลังคาแล้วจึงค่อยๆ ปล่อยน้ำกลับคืนสู่บรรยากาศอย่างช้าๆ โดยการระเหย ในขณะเดียวกันดินปลูกก็จะช่วยจับมลพิษที่ดูดซับมาโดยฝนไว้ในดิน โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ชื่อ “เอเลเวชัน 314" ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ใช้พลังคาเขียวสำหรับกรองและเก็บกักน้ำฝนบางส่วนไว้ในบริเวณโครงการเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ระบบกรองใต้ดินที่ใช้ทรายที่มีราคาแพงเพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติว่าด้วยการระบายน้ำฝนของหน่วยงานควบคุมด้านสาธารณสุขของวอชิงตัน ดี.ซี.
การต่อสู้กับปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง เป็นเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้หลังคาเขียวได้รับการยอมรับ วัสดุก่อสร้างอาคารทั่วไปเมื่อดูดซับความร้อนไว้เต็มที่แล้วก็จะไม่ดูดซับได้ไว้อีกและจะแผ่ความร้อนสู่อากาศที่เย็นกว่า ทำให้เมืองหนาแน่นทั่วไปมีความร้อนสูงกว่าพื้นที่ชานเมืองโดยรอบที่มีพื้นที่สีเขียวถึง 4 0ซ หลังคาเขียวของที่ทำการนครชิคาโก (ในภาพ) จะมีอุณหภูมิต่ำกว่าหลังคาธรรมดาอื่นๆ ทั่วไปที่อยู่ใกล้เคียงประมาณ 14-44 องศา
หลังคาเขียวเริ่มมีมากและกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในชิคาโก รวมทั้งแอตแลนตา พอร์ตแลนด์และเมืองอื่นๆ การใช้ที่มากขึ้นนี้เกิดจากข้อบัญญัติท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนเพื่อต่อสู้กับปรากฏการณ์เกาะความร้อนในขึ้นและเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นตัวอย่างหนึ่งของประเทศ ที่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อทดลองหาข้อมูลว่าหลังคาเขียวว่าจะมีผลต่อลมฟ้าอากาศจุลภาคบนหลังอย่างไร จากตัวอย่างนี้และจากการศึกษาหลังคาเขียวแห่งอื่นๆ ทำให้ประมาณการได้แล้วว่า หากหลังคาของอาคารทุกหลังในเมืองใหญ่เป็นหลังคาเขียว ในวันที่ร้อนจัด อุณหภูมิในเมืองจะลดลงได้มากถึง 7 องศา
นอกจากนี้ยังพบว่าหลังคาเขียวสามารถเพิ่มค่าความเป็นฉนวนของหลังคาได้มากอีกด้วย การศึกษาที่ทำโดยหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของแคนาดา (Environment Canada) พบว่าหลังคาเขียวสามารถลดความต้องการในการทำความอบอุ่นในฤดูหนาวได้ 260ซ และลดความต้องการในการทำความเย็นในฤดูร้อนได้ 26 องศา เช่นกัน การศึกษาของศูนย์วิจัยหลังคาเขียวของมหาวิทยาลัยเพนสเตตพบว่าหลังเขียวสามารถยืดอายุขัยการใช้งานของหลังคาให้ยืนยาวไปได้อีก 2-3 เท่า
ประการสุดท้าย หลังคาเขียวยังเป็นที่ขึ้นของพืชและที่อยู่อาศัยพักพิงของแมลงและสัตว์อื่นๆ ที่มีที่ขึ้นและที่มาอยู่อาศัยจำกัดมากขึ้นในเมืองใหญ่ แม้บนหลังอาคารสูง 19 ชั้นในเมืองใหญ่ก็ยังพบว่าหลังคาเขียวเป็นที่อยู่อาศัยและพักพิงของสัตว์ที่มีประโยชน์ประภทแมลง นก ผึ้งและผีเสื้อ หลังคาเขียวเพิ่มความเป็น “ป่า” ที่เป็นที่พักพิงของนกที่ร้องไพเ ราะ นกอพยพและสัตว์อื่นที่มีที่พักพิงน้อยลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น